หมวดหมู่ : ทั่วๆไป
เรื่อง : วิธีทำสัญญากู้เงิน
blog : ajarn1
ระดับ : [ มือใหม่ ]
อ่าน : 4114
จันทร์ ที่ 10 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2562
พิมพ์  

การทำสัญญากู้เงิน เป็นสัญญายืมใช้สิ้นเปลืองประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ให้กู้ยืนโอนกรรมสิทธิ์ในเงินที่ยืมนั้นตามจำนวนที่กำหนดไปให้แก่ผู้ยืม และได้ตกลงกันว่าจะคืนเงินจำนวนเดียวกันกับที่ยืมพร้อมดอกเบี้ยตามที่คู่สัญญาตกลงกันหรือตามที่กฎหมายกำหนด

ข้อสังเกต

  1. การกู้ยืมเงินเกินกว่า 2,000 บาทขึ้นไป หากไม่มีหลักฐานหรือสัญญา หรือหนังสือสัญญาแต่อย่างใด ก็ไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653)
  2. อัตราดอกเบี้ย ห้ามเกิน 15% ต่อปี (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาญิชย์ มาตรา 654 ) ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา หากมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี ให้ดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะ

นอกจากนี้ ยังห้ามมิให้มีการคิดดอกเบี้ยแบบทบต้น เว้นแต่ เมื่อค้างชำระดอกเบี้ยไม่น้อยกว่าหนึ่งปี คู่สัญญาสามารถตกลงกันให้เอาดอกเบี้ยทบเข้ากับเงินต้นแล้วคิดดอกเบี้ยในจำนวนที่ทบเข้ากันนั้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม บางกรณีที่สามารถคิดดอกเบี้ยทบต้นได้ อย่างเช่น สัญญาบัญชีเดินสะพัด หรือในการค้าขายอย่างอื่น ทำนองเดียวกัน (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 655)

สำหรับอายุความ การฟ้องร้องเรียกเงินตามสัญญากู้จะต้องกระทำภายในกำหนดอายุความ ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่าจะต้องฟ้องภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ถึงกำหนดชำระเงินคืน ดังนั้นการทำสัญญากู้ยืมเงินจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ให้กู้เงินและผู้ที่ขอกู้ หากมิได้ทำสัญญาผู้ให้กู้อาจจะไม่ได้รับเงินคืน และผู้ที่ขอกู้อาจจะเสียเปรียบในเรื่องของดอกเบี้ยและการชำระเงินคืนที่มากเกินไปได้ การทำสัญญาถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก


ขั้นตอนการทำสัญญากู้เงิน

อันที่จริงแล้วการทำสัญญากู้เงินคุณก็สามารถเขียนขึ้นมาเองได้ ไม่จำเป็นต้องไปซื้อตามร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ก็ได้ เนื่องจากการทำสัญญากู้เงินนั้นมีรายละเอียดที่สำคัญอยู่ไม่กี่อย่าง คุณก็สามารถเขียนขึ้นใหม่ด้วยตัวของคุณเองก็ได้แต่ต้องมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. วันที่ที่ทำสัญญากู้เงิน
  2. ชื่อ ผู้ขอกู้เงินและผู้ให้กู้เงิน
  3. จำนวนเงินที่กู้
  4. กำหนดชำระ (จะมีหรือไม่มีก็ได้)
  5. ดอกเบี้ย (ไม่เกิน 15% ต่อปี หรือ 25% ต่อเดือน)
  6. ลายเซ็นต์ผู้กู้
  7. ลายเซ็นต์ผู้ให้กู้ (จะมีหรือไม่ก็ได้)

นอกจากนี้ หากคุณต้องการเขียนแบบเรียบง่าย ก็สามารถทำได้ เพียงคุณเขียนว่า นาย A ได้กู้ยืมเงิน นาย B เป็นจำนวนเงิน xxx บาท และลงชื่อนาย A ผู้กู้ อย่างนี้ ก็ถือเป็นหลักฐานแห่งการกู้เงินแล้ว โดยหลักฐานแห่งการกู้เงิน สามารถเขียนได้ด้วยลายมือ หรือจากคอมพิวเตอร์ก็สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ การกู้ยืมเงินโดยมีการจำนองที่ดิน เป็นประกัน ไม่จำเป็นต้องทำสัญญากู้ก็ได้ และสามารถนำไปฟ้องคดีในกรณี ที่ผู้กู้ผิดนัดชำระได้เช่นเดียวกัน


ตัวอย่าง สัญญากู้เงิน

loan paper2

ในส่วนของผู้ค้ำประกัน เป็นการที่บุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้ หรือเจ้าหนี้ และอาจเป็นบุคคลเดียวหรือหลายคน ก็ได้เข้ามาทำสัญญากับเจ้าหนี้ว่าจะชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น โดยบุคคลภายนอกนี้เรียกว่า “ผู้ค้ำประกัน” ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 680 วรรค 2 บัญญัติว่า “สัญญาค้ำประกันถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใด อย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่” สัญญาค้ำประกันต้องทำเป็นหนังสือว่าค้ำประกันใคร หนี้อะไร มีมูลค่าค้ำประกันเท่าใด ภายในเวลากำหนดอย่างไร ลงชื่อผู้ค้ำประกันแล้วมอบให้เจ้าหนี้ไว้เป็นหลักฐานสำคัญ



รายละเอียดผู้เขียนบทความ blog
blog name :
เจ้าของ blog :
วัน/ เดือน/ ปีเกิด :
สถานที่ทำงาน :
จำนวนบทความใน blog :
ระดับของ blog :
ajarn1
Pon Ritiranakasin
2/2/2509

3 เรื่อง
[ มือใหม่ ]